เมื่อพูดถึงมะเขือเทศแล้ว ผมก็จะนึกถึง แกงส้มใส่มะเขือเทศรสแซบ ทานคู่กับไข่เจียวสีเหลืองสวยที่แอบซ่อนมะเขือเทศแดงๆไว้ข้างใน เป็นเมนูที่ทานแล้วมีความสุขมากๆเลยครับ (พูดถึงก็เริ่มหิวขึ้นมาเลย ฮ่าๆๆ)

แต่ก่อนที่เราจะมีมะเขือเทศให้ได้ทานกันนั้น เรามาลองปลูกกันเองดูไหมครับ เริ่มจากการเพาะเมล็ดก่อนเลย

วิธีเพาะเมล็ดมะเขือเทศ

1. เก็บมะเขือเทศผลแก่สีแดง (เก็บมาบ่มไว้ก่อนได้)
2. นำเมล็ดออกมาล้างน้ำให้สะอาด
3. เมล็ดของมะเขือเทศจะมีเมือกติดอยู่ ให้เรานำไปตากแห้ง1วัน เพื่อลดระยะพักตัว
4. นำกระดาษทิชชูใส่ลงในกล่องพลาสติกแล้วพรหมน้ำให้ชุ่ม  
5. วางเมล็ดลงบนกระกาษทิชชูแล้วปิดฝากล่อง 
6. เมื่อเมล็ดมะเขือเทศงอกรากแล้ว (ประมาณ1-2วัน) ให้นำลงถุงชำหรือแปลงปลูกได้เลย

ท่าที่ยังไม่มีต้นพันธุ์ก็สามารถนำเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อมาเพาะตามวิธีด้านด้านบนนี้ได้เลยนะครับ

ส่วนวิธีการปลูกนั้น ก็ทำเหมือนกับพืชผักทั่วไปได้เลย สามารถปลูกในกระถางได้ เพียงแต่ทำค้างเพื่อให้ผลไม่ติดผิวดินและระวังอย่างรดน้ำแฉะเกินไปนะ ..อ้อ! อย่าลืมให้แสงแดดมันด้วยล่ะ มันชอบอยู่กลางแจ้ง

เกร็ดความรู้

ระยะพักตัว เปรียบเสมือนการจำศีลของเมล็ดพืช เพื่อป้องกันไม่ให้เมล็ดงอกคาต้นแม่ ทำให้เราสามารถเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ได้

เมือกที่ห่อหุ้มเมล็ดมะเขือเทศอยู่นั้น มีกรดแอบไซซิก (Abscisic acid) ปนอยู่ มันคือฮอร์โมนที่คอยยับยั้งการงอก ทำให้เมล็ดพืชอยู่ในระยะพักตัว

เหตุผลอีกอย่างที่ทำให้เมล็ดมะเขือเทศไม่สามารถงอกในผลได้ก็เพราะว่า น้ำในผลกับน้ำในเมล็ดมีแรงดันที่ต่างกันมาก ซึ่งจะยับยั้งการงอกของเมล็ด (แรงดันออสโมซิส Osmotic Potential ของสารละลายในผลมีค่าน้อยกว่าในเมล็ด เป็นค่าติดลบ)

ขอขอบคุณข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จาก
คุณครูสุกัลยา ธุปพงษ์ ครูสอนชีววิทยา รร.เบญจมราชรังสฤษฎิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
คุณครูนิรุจน์ ศรีเกษม อดีตครูสอนชีววิทยา รร.ดัดดรุณี จ.ฉะเชิงเทรา